15/10/57

ชิฮิโระ อิวาซากิ ผู้สร้างสรรค์ภาพวาดของเด็กๆได้อย่างละเอียดอ่อน และ นุ่มนวล

Chihiro Iwasaki ( いわさきちひろ(岩崎知弘 / Iwasaki Chihiro )
ศิลปิน ,นักเขียนการ์ตูน และ นักวาดภาพประกอบชาวญี่ปุ่น


ท่านๆคงอาจจะเคยผ่านตา หรือ เคยอ่าน หนังสือวรรณกรรมเยาวชนชิ้นเยี่ยมของญี่ปุ่น 
เรื่อง "โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง" (Totto-Chan: The Little Girl at the Window)
ซึ่งเป็นงานเขียนของ เท็ตสึโกะ คุโรยานางิ (黒柳徹子 :Tetsuko Kuroyanagi) กันมาบ้าง
(โต๊ะโตะจัง เป็นหนังสือที่ทำลายสถิติการจำหน่ายในญี่ปุ่น
สามารถจำหน่ายได้ถึง 6 ล้าน 5 แสนเล่ม
ในระยะเวลาเพียง 3 ปีเศษ เฉพาะภาษาญี่ปุ่น 
และ ได้แปลเป็นภาษาอื่นๆ อีกนับสิบภาษา รวมถึงภาษาไทยของเรา )
ภาพประกอบสีน้ำ ที่เราเห็นในหนังสือเรื่อง "โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง" 
นั้นก็คือผลงานของ Chihiro Iwasaki คนนี้เองล่ะครับ (^^)
.......................................................................................

Chihiro Iwasaki ( いわさきちひろ(岩崎知弘 / Iwasaki Chihiro )
ชิฮิโระ อิวาซากิ ผู้สร้างสรรค์ภาพวาดของเด็กๆได้อย่างละเอียดอ่อน และ นุ่มนวล

- Chihiro Iwasaki เป็นลูกสาวคนแรกของ Masakatsu และ Fumie Iwasaki
- เธอเกิดในยุคไทโช (Taisho 1912-1926) วันที่ 15 ธันวาคม 1918
  ในเมือง Takefu (ปัจจุบันคือ Echizen-city), จังหวัด Fukui
- ในปีต่อมา(1919)หลังจากเธอเกิด ครอบครัวของเธอ ได้ย้ายไปอยู่ที่โตเกียว
  โดยอาศัยอยู่จนกระทั่งถึงปี ค.ศ.1945
- วันที่ 8 สิงหาคม 1974 ในฤดูใบไม้ร่วง Chihiro Iwasaki เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งตับ  (รวมอายุ 55 ปี)

Chihiro Iwasaki มีความรักในการวาดภาพ เมื่อเธอมีอายุได้ 14 ปี (ค.ศ.1933)
ภายใต้การสอนของ Saburosuke Okada ซึ่งเป็นทั้งศิลปิน และ อาจารย์ จาก
โรงเรียนโตเกียววิจิตรศิลป์ (ในภายหลังคือ มหาวิทยาลัยศิลปะโตเกียว )
"the Tokyo School of Fine Arts" (later Tokyo University of the Arts)
เธอได้เริ่มศึกษาภาพวาด ได้เริ่มเรียนรู้การวาดภาพ และ การวาดภาพสีน้ำมัน
Chihiro Iwasaki จบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยม ในปี ค.ศ.1936
เมื่อเธออายุ 18 ปี (ค.ศ.1937) เธอก็ได้เริ่มศึกษาการประดิษฐ์ตัวอักษรญี่ปุ่น และ
การวาดภาพด้วยหมึก ที่โรงเรียน Shuyo Oda of the Fujiwara Kozei School


ปีค.ศ.1939 ในฤดูใบไม้ผลิ เธอได้เข้าพิธีแต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่ง
จากการจัดการโดยพ่อแม่ของเธอ
เธอและสามี ได้ย้ายไปอยู่ที่ ต้าเหลียน , แมนจูเรีย
แต่ว่าชีวิตการแต่งงานก็ต้องจบลงในช่วงฤดู​​หนาว จากการที่สามีของเธอฆ่าตัวตาย
Chihiro Iwasaki เป็นม่าย และกลับมายังโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในปี ค.ศ.1941

ค.ศ.1942 Chihiro Iwasaki เริ่มหันมาศึกษาภาพเขียนสีน้ำมันอีกครั้ง
โดยในคราวนี้ภายใต้การสอนของ Tai Nakatani

ค.ศ.1944 ในเดือนเมษายน Chihiro Iwasaki เดินทางไปแมนจูเรียกับ กลุ่มผู้หญิงผู้บุกเบิก
และกลับไปยังญี่ปุ่น ในเดือนสิงหาคม
ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สถานการณ์ของสงคราม กำลังมีความรุนแรง

ปี ค.ศ.1945 จากการบุกโจมตีทางอากาศที่โตเกียว
ได้ทำลายบ้านของครอบครัวของเธอจนวอดวาย
ครอบครัวของเธอ ต้องย้ายไปอยู่ที่บ้านของคุณยายของเธอ ที่ มัตสึโนะ

ในปี ค.ศ.1946 หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองจบลง
เธอเข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์ญี่ปุ่น ในจังหวัดนากาโน่
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ Chihiro Iwasaki กลับไปโตเกียว
และเรียนศิลปะภายใต้การสอนของ Toshiko Akamatsu
โดยในช่วงเวลานี้ เธอเป็นทั้งนักเขียน และ นักเขียนการ์ตูน
ให้กับหนังสือพิมพ์ Jinmin Shinbun ( 人民新闻,หนังสือพิมพ์ประชาชน)

ในปีค.ศ.1949 บรรณาธิการของ บริษัท Doshinsha สำนักพิมพ์หนังสือสำหรับเด็ก
ได้ขอให้เธอสร้างงานภาพประกอบการเล่าเรื่อง
ในรูปแบบ Kamishibai (a kind of educational Kamishibai) ***
ซึ่งงานนี้เป็นงานแรกของเธอ ที่มีต่อเด็กๆ
โดยเธอได้สร้างและเผยแพร่เป็นภาพชุด "paper-theater"
ภาพประกอบการเล่าเรื่องในรูปแบบ Kamishibai
ในเรื่องที่มีชื่อว่า Okasan no Hanashi (The Story of a Mother)

(หมายเหตุ *** Kamishibai : 
Kami (纸) หมายถึงกระดาษ และ shibai (芝居) หมายถึงการเล่นละคร
เป็นรูปแบบของการเล่าเรื่อง ที่ผสมผสานกับการใช้ภาพวาด
เป็นภาพที่เรียบง่าย โดยใช้คำน้อยมาก หรือ ไม่มีคำพูด  ไม่มีรายละเอียดมากนัก 
การเล่าเรื่อง โดยการมีส่วนร่วมของผู้เล่า นำเสนอด้นสดเล่าเรื่องโดยเรียงภาพตามเรื่องที่เล่า
ผู้เล่าจะเล่าเรื่องโดยสอดแทรกอารมณ์ คำพูด น้ำเสียง และท่าทาง *** )

ในปี ค.ศ.1950 เธอได้วาดภาพประกอบเอาไว้มากมาย สำหรับโปสเตอร์ในเชิงพาณิชย์
นิตยสาร และ หนังสือข้อความของโรงเรียน
- Okasan no Hanashi (The Story of a Mother) ถูกตีพิมพ์ และ ได้รับรางวัล
"the Prize for the Minister of Education, Science and Culture" )

ค.ศ.1950 เธอมีความตั้งใจที่จะเป็น นักเขียนการ์ตูนมืออาชีพ
และในปีเดียวกันนี้ เธอเข้าพิธีแต่งงานกับ Zenmei Matsumoto
(เพื่อนคอมมิวนิสต์ที่อายุน้อยกว่าเธอ 7 ปี)
ในปีต่อมา ค.ศ.1951 ได้คลอดบุตรชายชื่อว่า ทาเคชิ (Takeshi) ซึ่งเป็นลูกคนเดียวของพวกเขา
เธอมักใช้บุตรชายเป็นแบบจำลอง สำหรับวาดภาพทารก และ ภาพเด็กๆของเธอ

ในปี ค.ศ.1952 เธอได้สร้างบ้านใน Nerima-ku, โตเกียว ซึ่งบ้านหลังนี้ในปัจจุบัน กลายเป็น
" พิพิธภัณฑ์ศิลปะ ชิฮิโระ โตเกียว " (the Chihiro Art Museum Tokyo) หลังจากที่เธอเสียชีวิต

ค.ศ.1956 เธอได้รับรางวัลวัฒนธรรมเยาวชนจาก "Shogakukan"
สำนักพิมพ์ ที่จัดพิมพ์หนังสือ และ ภาพประกอบนิตยสารสำหรับเด็กเล็ก
เธอได้สร้างหนังสือภาพเล่มแรกของเธอ ที่มีชื่อว่า Hitori de Dekiru yo (I Can Do It All by Myself)

ค.ศ.1960 เธอได้สร้างหนังสือเด็กชื่อว่า  AIUEO no Hon (The Alphabet Book: A-I-U-E-O)
(ได้รับรางวัล Sankei Children's Books Award ในปีค.ศ.1966)
- Chihiro Iwasaki ได้ย้ายไปที่กระท่อม ซึ่งเป็นสตูดิโอของเธอที่ the Kurohime Highlands
ตั้งอยู่ใกล้ทะเลสาบ Nojiri, จังหวัด Nagano
เธอรักที่แห่งนี้ และใช้เวลาส่วนใหญ่
ทำงานภาพประกอบหนังสือสำหรับเด็กในกระท่อมนี้เป็นประจำทุกปี

ค.ศ.1963 เริ่มงานชุดที่สำคัญ
คือทำหน้าปกให้กับนิตยสาร Kodomo no Shiawase (Children's Happiness)
ในเดือนมิถุนายน เธอเข้าร่วมการประชุมนานาชาติของผู้หญิง ที่จัดขึ้นในกรุงมอสโก

ค.ศ.1966 เดินทางไปยุโรป หลังจากการเดินทาง เธอได้แสดงผลงาน
H.C. Andersen's E no Nai Ehon (What the Moon Saw)

ค.ศ.1967 สร้างผลงานที่ชื่อว่า  Watashi ga Chiisakatta Toki ni (When I Was a Child)
และในปีนี้ สามีของเธอได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

ค.ศ.1968 สร้างผลงานที่ชื่อว่า Ame no Hi no Orusuban (Staying Home Alone on a Rainy Day).

ในปี 1973 สร้างผลงานที่ชื่อว่า Kotori no Kuru Hi (The Pretty Bird) ชนะรางวัล the Graphic Prize Fiera di Bologna

- ตีพิมพ์และเผยแพร่ Senka no Naka no Kodomo-tachi (Children in the Flames of War)
ได้รับรางวัลเหรียญทองแดงจากงานหนังสือนานาชาติ the Leipzig International Book Fairในปีต่อมา
(posthumously granted the bronze medal of the Leipzig International Book Fair in 1974. )

ในปี ค.ศ.1974 Chihiro Iwasaki เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งตับ (อายุ 55 ปี)
วันที่ 8 สิงหาคม  Akai Rosoku to Ningyo (The Red Candles and the Mermaid) ได้รับการตีพิมพ์

ในปี ค.ศ.1981เจ็ดปีหลังจากการตายของเธอ
"โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง" ที่เขียนโดย Tetsuko Kuroyanagi ถูกตีพิมพ์
โดยภาพประกอบ เป็นงานของ Chihiro Iwasaki
(ฉบับภาษาอังกฤษ ตีพิมพ์ในปี 1984)


.......................................................................................
พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์

" ความสุขของเด็ก และ ความสงบสุข " ("the happiness of children and peace")

ภาพประกอบสีน้ำ รูปดอกไม้ และ ภาพเด็กๆ ของเธอ คือข้อความของ Chihiro Iwasaki
ที่ส่งมอบความหวัง ความปรารถนาดี เพื่อโลกที่สงบสุข และ ปลอดภัยสำหรับเด็กๆ
เธออยากที่จะหยุดสงคราม และ ความทุกข์ทรมานทั้งหมดของเด็กๆ
คือความปรารถนาดี ที่เธอต้องการเห็นโลกของความสงบ
และ เด็กๆสามารถเติบโตอย่างมีความสุข และ ปลอดภัย
ตลอดชีวิตของ Chihiro Iwasaki เธอมีความปรารถนา
และ ห่วงใยถึงสันติภาพในอนาคตของเด็กๆ ทั่วโลกอย่างยิ่ง
พิพิธภัณฑ์ศิลปะของ Chihiro Iwasaki ผลิความหวังในการเป็นเสมือนทูต
ที่ไม่เพียงเผยแพร่ผลงานของเธอเท่านั้น ยังได้นำกิจกรรมอันหลากหลาย
ไปสู่สันติภาพ และ ความสุข ในทุกหนแห่งของโลกด้วย

Azumino Chihiro พิพิธภัณฑ์ศิลปะ
สองพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สถาน ที่อุทิศตนเพื่อ Chihiro Iwasaki คือ :

Chihiro museum tokyo entrance 2009
Chihiro พิพิธภัณฑ์ศิลปะโตเกียว ( The Chihiro Art Museum Tokyo ,ちひろ美術館·東京)
ตั้งอยู่ใน Nerima, Tokyo ; เริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 1977)

และ

Chihiro Art Museum Azumino, 26 Jun 2012, 001
Chihiro พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Azumino ( Chihiro Art Museum Azumino,野安曇ちひろ美術館)
ตั้งอยู่ใน Azumino, Nagano ; เริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 1977)

พิพิธภัณฑ์ทั้งสองแห่งดำเนินการโดย
มูลนิธิอนุสรณ์ Chihiro Iwasaki (いわさきちひろ記念事業団
ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1976 ในพิพิธภัณฑ์ทั้งสองได้รวบรวม และ
จัดแสดงภาพเดิมของหนังสือสำหรับเด็กโดย Chihiro Iwasaki และ ศิลปินคนอื่น ๆ

.......................................................................................

รายการ ผลงานส่วนหนึ่งของ Chihiro Iwasaki

- Okasan no Hanashi (The Story of a Mother) : a kind of educational Kamishibai, 1949
- Hitori de Dekiru yo (I Can Do It All by Myself) 1956
- AIUEO no Hon (The Alphabet Book: A-I-U-E-O), 1960
- E no Nai Ehon (What the Moon Saw) originally written by H.C. Andersen, 1966
- Tsuru no Ongaeshi (The Crane Maiden) text by Miyoko Matsutani, illustration by Chihiro Iwasaki, 1966
- Watashi ga Chiisakatta Toki ni (When I Was a Child), 1967
- Ame no Hi no Orusuban (Staying Home Alone on a Rainy Day), 1968
- The Red Shoes originally written by H.C. Andersen, illustration by Chihiro, in 1968
- Kotori no Kuru Hi (The Pretty Bird), 1973
- Senka no Naka no Kodomo-tachi (Children in the Flames of War), 1973
- Akai Rosoku to Ningyo (The Red Candles and the Mermaid)
  (published posthumously in 1974) with text by Mimei Ogawa

Books published in English
- Hans Christian Andersen, The Little Mermaid,
  illustrated by Chihiro Iwasaki, Picture Book Studio (Natick, MA), 1984.
- Anthea Bell Swan Lake: A Traditional Folktale (adaptation of Tchaikovsky's Lebedinoe ozero),
  illustrated by Chihiro Iwasaki, Picture Book Studio (Natick, MA), 1986.
- Anthea Bell The Wise Queen, illustrated by Chihiro Iwasaki, Picture Book Studio (Natick, MA), 1986.
- Hans Christian Andersen, The Red Shoes,
  illustrated by Chihiro Iwasaki, Neugebauer (Boston, MA) Press, 1983 .
- Jacob and Wilhelm Grimm, Snow White and the Seven Dwarves,
  illustrated by Chihiro Iwasaki, Picture Book Studio (Natick, MA), 1985.
- Totto-Chan: The Little Girl at the Window

.......................................................................................

สไตล์ของเธอส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพล จากสองศิลปินที่เธอชื่นชอบ ก็คือ
Kenji Miyazawa และ Hans Christian Andersen
เธอได้เขียนบอกความรู้สึกไว้ว่า เธอมีบางสิ่งบางอย่างร่วมกันกับ Marie Laurencin
เมื่อเห็นภาพของเธอ และบอกว่าเธอยังประทับใจใน Käthe Kollwitz

ภาพวาดของเธอ ส่วนใหญ่จะเป็นภาพสีน้ำ และ บางส่วนเป็นภาพวาดสีน้ำมัน
บางส่วนของการทำงานของเธอ มีการประดิษฐ์ ตัวอักษรภาษาญี่ปุ่น
Chihiro ได้คิดรูปแบบที่เป็น เอกลักษณ์ของการแสดงออกที่ละเอียดอ่อน
โดยใช้เทคนิคที่ผสมจากการวาดภาพสีน้ำที่มีที่มาจากญี่ปุ่น จีนแบบดั้งเดิม และ ภาพวาดหมึก
สไตล์ที่ละเอียดอ่อน และ ลื่นไหล นั้นคือคุณภาพที่สำคัญในการทำงานของเธอ
ส่วนที่ดูเหมือนว่า จะมีอิทธิพลต่อเทคนิคการวาดภาพของเธอ ก็คือ
ประสบการณ์แรกกับการประดิษฐ์ตัวอักษรภาษาญี่ปุ่น
ที่โรงเรียน Shuyo Oda of the Fujiwara Kozei School

Chihiro มีความสามารถทางศิลปะที่โดดเด่น พร้อมๆกับความรักที่ได้จากมารดาของเธอ
เธอนำความรักที่สดใหม่มารวมกัน เพื่อสร้างสไตล์ที่โดดเด่นและ ภาพที่น่าจดจำ

"เมื่อฉันวาดภาพเด็ก ฉันรู้สึกราวกับว่า ฉันวาดภาพในวัยเด็กของตัวเอง."
ภาพของเด็กน้อยในงานของ Chihiro Iwasaki อาจจะเป็นภาพสะท้อนในวัยเด็กของเธอเอง

แม้ว่า Chihiro Iwasaki จะลาจากโลกนี้ไปนานแล้ว
แต่การทำงานของเธอ ยังคงล้อมรอบตัวเรา
เหมือนอากาศที่เราหายใจ และ นุ่มนวลอ่อนโยน อยู่ในหัวใจของเรา
ผลงานของเธอ ยังคงเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม
ตลอดอาชีพในฐานะศิลปินของ Chihiro Iwasaki เธอไม่เคยเหนื่อยกับการวาดภาพเด็กเลย
ความสำเร็จของเธอแสดงให้เห็นถึง ผลของความพยายามที่ไม่สิ้นสุด
เธอวาดรูปเด็กๆได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ
เธอสามารถสร้างสรรค์ภาพของเด็กออกมาได้อย่างละเอียด นุ่มนวล
ถึงแม้จะไม่มีรูปแบบอย่างถูกต้อง เธอก็สามารถจับภาพความแตกต่าง
ระหว่าง เด็กอายุสิบเดือน และ เด็กอายุหนึ่งปีได้เป็นอย่างดี
จากการวาดพวกเขามานานกว่ายี่สิบปี และ จากการผ่านประสบการณ์ของ การเป็นแม่
Chihiro Iwasaki ใช้ทักษะการวาด สายตาที่เฉียบคม
และ ความสามารถในการจับพลังงานอันอ่อนเยาว์ของเด็กๆ
ภาพวาดของChihiro Iwasaki  สามารถแสดงถึงความแตกต่าง ระหว่างวัยของเด็กๆได้
เธอสร้างภาพของเด็กไว้ จำนวนนับไม่ถ้วน โดยใช้พู่กัน, สี และน้ำ เคลื่อนที่ไปมาอย่างเป็นอิสระ
ถ่ายทอดความอ่อนนุ่ม และยืดหยุ่นของผิวเด็ก โดยที่ไม่มีแม้แต่การร่างใดๆ
ภาพที่เธอสร้างจึงมีทั้งจินตนาการ ความสดใส มีชีวิตชีวา และเต็มไปด้วยชีวิต


"สงครามไม่ได้เป็นเพียงการเผาไหม้ทำลายบ้านเรือน และ ฆ่าคน
สงครามยังพังทลาย หัวใจของประชาชน "
" War is not only the burning down of houses and the killing of people;
it is also the erosion of peoples' hearts."
—Chihiro Iwasaki
From the December 1972 issue of Notebook of Life


Source :

ชมผลงานของ Chihiro Iwasaki ที่
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของพิพิธภัณฑ์ศิลปะ Chihiro (Official site of Chihiro Art Museum)

http://www.chihiro.jp/global

http://en.wikipedia.org/wiki/Chihiro_Iwasaki

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...